ทริปนี้วีไกด์พาคุณเที่ยวเกาหลีใต้ช่วงหน้าหนาวในเดือนพฤศจิกายน วันนี้อากาศในกรุงโซลประมาณ 5 องศา เรียกว่าหนาวสะใจ ใครยังไม่เคยมาเที่ยวหน้านี้ต้องลองมานะคะ เตรียมเสื้อผ้าให้พร้อมมั่นใจว่าเอาอยู่แล้วลุยกันเลยค่ะ
เริ่มต้นเดินทางไปเที่ยวชม ศาลเจ้าชงมโย (Jongmyo Shrine) กันค่ะ ศาลเจ้านี้เป็นโบราณสถานที่สำคัญมากทางประวัติศาสตร์ของราชวงศ์โชซอน อีกทั้งได้รับการอนุรักษ์ให้เป็นอุทยานประวัติศาสตร์และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในวันที่ 9 ธันวาคม 1995 ศาลเจ้าแห่งนี้สมัยเมื่อ 500 ปีก่อน ใช้เป็นที่ประกอบพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณบรรพบุรุษของกษัตริย์และราชินีแห่งราชวงศ์โชซอนนั่นเองค่ะ จัดขึ้นในทุกฤดูกาลตลอดปี มีการจัดเเสดงดนตรี ร้องรำทำเพลง ปัจจุบันยังมีการอนุรักษ์วัฒนธรรมนี้ไว้โดยจัดให้มีพิธีการแสดงศิลปะทางดนตรีขึ้นที่ศาลเจ้าแห่งนี้ ในสัปดาห์เเรกของเดือนพฤษภาคมค่ะ ไฮไลท์ของการเเสดงจะอยู่ช่วงกลางคืน ลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อเข้าชมโดยติดต่อที่เจ้าหน้าที่หน้าทางเข้าได้เลยค่ะ
ศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ในหุบเขา ที่โอบล้อมด้วยเนินเขาเล็กๆ ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยศตวรรตที่ 17 โอ้โห..เก่าเเก่มากๆค่ะ นับว่ามีความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรมด้านการออกแบบ ดูสวยสง่างาม เหมือนกับรูปแบบการสร้างตามต้นแบบ พระราชวังเคียงบกกุง เลยทีเดียวค่ะ
แต่เดิม Jeongjeon หรือ Main Shrine นี้มีเพียง 7 ห้อง ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นที่ประทับของของกษัตริย์และราชินี ขณะเสด็จมาประกอบพิธีบวงสรวงดวงวิญญาณบรรพบุรุษ ต่อมาได้มีการสร้าง Yeongnyeongjeon หรือ Hall of Eternal Peace เพื่อขยายต่อเติมเพิ่มอีก 19 ห้อง โดยสร้างด้วยโครงไม้ทั้งหลัง จึงมีความยาวถึง 109 เมตร ได้ชื่อว่าเป็นอาคารไม้ สถาปัตยกรรมเกาหลีที่ยาวที่สุดเชียวล่ะค่ะ
ในวันสำคัญนั้น กษัตริย์ ราชินี และเชื้อพระวงศ์ จะทรงประทับภายในห้องโถงหลัก เหล่าข้าราชบริพารจะทำการจัดเตรียมเครื่องเซ่นบูชา ภัตตาหาร ป้ายบูชาบรรพบุรุษ ที่ใช้ประกอบในพิธีกรรมค่ะ ส่วนบริเวณลานกว้างด้านนอกมีการเต้นร้องรำ เพื่อบวงสรวงดวงวิญญาณของเหล่ากษัตริย์และราชินีทั้งหลายในอดีต ใช้เวลานานถึง 6 ชั่วโมงเต็ม พิธีนี้ไม่ธรรมดาเลยค่ะ
อาคารนี้ถูกสร้างขึ้นมาสูงเหนือระดับพื้นดินพอสมควรเลยค่ะ ลองขึ้นไปเดินเล่นบนลานหน้าโถงหลักนี้กันค่ะ ลองดูซิว่าคุณจะมีความรู้สึกเหมือนกันมั้ย วีไกด์รู้สึกได้เลยค่ะว่ามีความศักดิ์สิทธิ์หรือพลังเร้นลับซ่อนอยู่ ดูยิ่งใหญ่และอลังการ เสียดายหลังจากที่ญี่ปุ่นมารุกราน ราชวงศ์โชซอนจึงเป็นราชวงศ์สุดท้ายของเกาหลี
แต่ที่นี่ยังคงใช้เป็นที่เก็บแผ่นป้ายจารึกของกษัตริย์ทั้งหมดในราชวงศ์โชซอนค่ะ โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้เข้าชมสถานที่และชมการเเสดงศิลปะและวัฒนธรรมทางดนตรีเพื่ออนุรักษ์ให้คนรุ่นหลังได้ระลึกและสืบสานต่อๆไป
ที่เห็นในภาพนี้ Hyangdaecheong เป็นอาคารไม้ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เก็บข้าวของเครื่องใช้ที่ประกอบพิธีกรรม เช่น ภาชนะ ช้อน ตะเกียบ ธูป เป็นต้นค่ะ
สำหรับการเข้าชม ศาลเจ้าชงมโย มีค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 1,000 วอน เด็ก 500 วอน เด็กต่ำกว่า 6 ปี และผู้สูงวัยเกิน 65 ปีเข้าชมฟรี หรือถ้าใส่ชุดฮันบกก็เข้าชมฟรีค่ะ ปกติเปิด 8.00-18.00 น ปิดทุกวันอังคาร. หน้าหนาวปิดเร็วกว่าปกติ 17.30 น. เวลาเดินเข้าชมมีไกด์บรรยายเป็นภาษาอังกฤษบริการด้วยนะค่ะ ยกเว้นวันเสาร์ เราเดินชมเองได้อิสระเลยค่ะ
เค้าพยายามอนุรักษ์อาคารไม้ทุกหลังเหล่านี้ ให้คงสภาพเหมือนเดิมทุกอย่างเลยล่ะค่ะ น่าทึ่งมากๆ
ข้าวของเครื่องใช้ในพิธีกรรม ยังคงมีจัดเเสดงให้ชมค่ะ
ชมรายละเอียดสถาปัตยกรรมภายนอกโถงหลัก เราไม่สามารถเดินไปชมภายในได้ ภายในใช้เก็บแผ่นป้ายจารึกของกษัตริย์และราชินีเเห่งราชวงศ์โชซอนค่ะ
ด้านในโถงนี้ จัดแสดงเครื่องแต่งกายของกษัตริย์ รวมถึง เครื่องเซ่น ภัตตาหาร ที่ใช้ประกอบในพิธีกรรมค่ะ
อากาศหนาวมากๆค่ะ นกยังดูแข็งๆยังไงบอกไม่ถูก ^ ^
ว้าว บรรยากาศแบบนี้ เงียบสงบ ร่มรื่น แถมคนไม่พลุกพล่านชอบจังเลยค่ะเที่ยวชมศาลเจ้าชงมโยกันมาแล้ว ได้รับความรู้เกี่ยวกับประเพณีสำคัญทางประวัติศาสตร์กันมาบ้างแล้วเพลินดีนะคะ หวังว่ามาเกาหลีใต้คราวหน้าจะลองเข้ามาเยี่ยมชมมรดกโลกแห่งนี้กันนะคะ
ขอบคุณที่อ่านและคอยติดตามวีไกด์ว่าเราจะพาคุณไปเที่ยวไหนกันต่อนะคะ เที่ยวเองง่ายๆ สบายๆ สไตล์คุณกับวีออฟเฟอร์ we-offers.com
นั่งรถไฟใต้ดินในกรุงโซล Line No. 1, 3, หรือ 5 ก็ได้ ลงสถานี Jongno 3 (sam)-ga ทางออก 11 ขึ้นมาเจอทางเข้า ศาลเจ้าชงมโย เลยค่ะ
- ทุกวันพุธสุดท้ายของเดือน ถือเป็นวันวัฒนธรรมค่ะ บริการให้เข้าชมฟรี
- แนะนำมาเดินช่วงเช้าคนน้อย อากาศดีค่ะ
- ติดกับศาลเจ้าชงมโย มีสวนสาธารณะใหญ่มาก แถวนั้นจะมีขายทั้งภาพวาด ขนม ผลไม้ราคาไม่เเพง ไปช้อปปิ้งเดินเล่นชมวิวโซลต่อได้เลยค่ะ